กลายเป็นเรื่องราวสุดช็อกหลัง จิงโจ้ทำร้ายคน บาดเจ็บสาหัส เชื่อจิงโจ้ตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงเหยื่อ สุดท้ายตายทั้งคนทั้งจิงโจ้ หลังตำรวจจำใจต้องยิง เมื่อวันที่ 13 กันยายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า มีชายวัย 77 ถูกจิงโจ้ทำร้ายได้รับบาดเจ็บที่บ้านพัก ในเมืองเรดมอน ประเทศออสเตรเลีย
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุก็เจอจิงโจ้ขวางไม่ให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชายคนดังกล่าว
ทำให้ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยิงจิงโจ้ตาย ทั้งนี้ชายวัย 77 ปีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าจิงโจ้ตัวดังกล่าว น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของผู้ตาย อย่างไรก็ดีไม่มีการเปิดเผยว่าเพราะเหตุใดจิงโจ้ถึงเริ่มจู่โจมชายวัย 77 ปีคนนี้
แม้ว่าจิงโจ้จะเป็นสัตว์ที่หลายคนมองว่าน่ารัก แต่ในความเป็นจริงแล้วจิงโจ้นั้นถือเป็นสัตว์ที่อันตรายโดยเฉพาะเวลาที่รู้สึกหวาดกลัวหรือจนมุม และสามารถโจมตีมนุษย์ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะด้วยฟัน กรงเล็บ และขาที่แข็งแรง
ครั้งแรกที่มีการรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากจิงโจ้ในโลกนั้นเกิดขึ้นในปี 2479 โดยเหตุการณ์นั้นระบุว่าชายวัย 38 ปีเสียชีวิตหลังจากที่เขาถูกจิงโจ้ทำร้ายร่างกายขณะพยายามช่วยเหลือสุนัขสองตัวจากจิงโจ้
ทางบริษัท ERDC ระบุว่า การตายของอีวานนั้นเป็นการสูญเสียที่ไม่สามารถทดแทนได้สำหรับเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของบริษัท
อย่างไรก็ดามการตายของ อีวาน เปโชริน เกิดขึ้น 8 ให้หลังจากที่อดีตหัวหน้า อิกอร์ โนโซฟ เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองในวัยเพียง 43 ปี เช่นเดียวกันกับ ราวิล มากานอฟ อีกหนึ่งเศรษฐกีที่ตกตึกเสียชีวิตปริศนาเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่
อีวาน เปโชริน เป็นอีกหนึ่งเศรษฐีที่ตายอย่างปริศนานับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซียกับยูเครนที่ขณะนี้ดำเนินมานานกว่า 6 เดือน
ชายซาอุ เล่าประสบการณ์ชีวิต แต่งงาน 53 ครั้ง ไม่ใช่เพราะสนองตัณหา แต่เพราะหาหญิงที่ใช่ แต่งและหย่าเร็วสุดแค่วันเดียว เมื่อวันที่ 11 กันยายน เว็ปไซต์ กัลฟ์นิวส์ รายงานว่า หนุ่มซาอุอายุ 63 ปี ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อว่า เขาแต่งงานมาแล้ว 53 ครั้ง โดยสาเหตุที่เขาแต่งงานหลายครั้งไม่ใช่ เพราะว่าเขาต้องการสนองตัณหา แต่เป็นเพราะเขาพยายามตามหาคนที่ใช่
ชายคนดันกล่าว หรือ อาบู อายุ 63 ปี เล่าว่า ครั้งแรกที่เขาแต่งงานเขาไม่คิดว่าเขาต้องแต่งงานอีกหลายครั้ง เขาต้องการความสะดวกสบายและมีลูก ทว่าเขาเริ่มประสบปัญหาชีวิตคู่ และทำให้เขาตัดสินใจว่าเขาจะหย่าและหาภรรยาใหม่
สหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิต ฝีดาษลิง รายแรกในลอสแองเจลิส เผยติดเชื้อกว่า 21,000 ราย
สหรัฐอเมริกา พบผู้เสียชีวิต ฝีดาษลิง รายแรก ในลอสแองเจลิส พร้อมเผยรายงานผู้ติดเชื้อไม่มีประวัติเสี่ยงในสหรัฐฯ กว่า 21,000 ราย
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ได้มีแถลงการณ์พบผู้ป่วยเสียชีวิตรายแรกจากการติดเชื้อฝีดาษลิง (Monekeypox) ในมหานครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรายงานระบุอย่างชัดเจนว่าเสียชีวิตเนื่องด้วยสาเหตุติดเชื้อโรคร้ายฝีดาษลิงเป็นรายแรก จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประจำสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ระบุว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิงรายนี้มีภาวะภูมิคุ้มกันที่บกพร่องอย่างรุนแรง และได้รับการเข้ารักษาในโรงพยาบาลอย่างเต็มที่แล้ว นอกเหนือจากข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้เสียชีวิตฝีดาษลิงรายแรกนี้
ด้าน ดร.วิลเลียม ชาฟฟ์เนอร์ ศาสตราจารย์ประจำหน่วยโรคระบาดของศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ (Vanderbilt University Medical Center) ได้เปิดเผยข้อมูลกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นภาวะที่ทำให้ไม่สามารถจัดการกับไวรัสชนิดต่าง ๆ ที่เข้ามาในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไวรัสเกิดการเพิ่มจำนวนและแพร่กระจายไปยังระบบอวัยวะส่วนอื่นจะนำไปสู่ภาวะการทำงานที่ผิดปกติของร่างกาย
ตั้งแต่มีข่าวโรคระบาดฝีดาษลิงก็ไม่พบรายงานผู้เสียชีวิตจากเชื้อฝีดาษลิงเลยทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าจะมีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเสียชีวิตในรัฐเทกซัส เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 แต่ก็ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่ามาจากโรคฝีดาษลิง
เนื่องมาจากลักษณะผู้ป่วยฝีดาษลิงมักมีอาการเป็นไข้ ผื่นขึ้น ปวดเมื่อยตามร่างกาย และหนาวสั่น ซึ่งมีอาการคล้ายกับโรคไข้ทั่วไป จึงไม่สามารถฟันธงได้แน่นอนว่าที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตโรคฝีดาษลิงจำนวนกี่คน
ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐได้รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงภายในประเทศสหรัฐอเมริกาทั้งสิ้นกว่า 21,000 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงทั้งหมดไม่มีประวัติการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หรือการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายอื่นมาก่อน จึงเป็นที่น่าเป็นห่วงและต้องคอยเฝ้าระวังกันต่อไป.
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
